เปิดตำราทำอาหารกับครัวคุณแก้วตา

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีทำขนมโคไส้มะพร้าวอ่อน Thai Dessert

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสมขนมโคไส้มะพร้าวอ่อน
  • แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 4-5 ชต
  • มะพร้าวอ่อนขูด 4 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลมะพร้าว 1 ถ้วยตวง
วิธีทำขนมโคไส้มะพร้าวอ่อนทีละขั้นตอน:  
  1. ใส่มะพร้าวอ่อนขูดที่เตรียมไว้ลงในกระทะแล้วผัดให้น้ำตาลกับมะพร้าวเข้ากันดี
  2. ตามด้วยเกลือป่น และผัดไปเรื่อยๆคอยสังเกตสีของมะพร้าวใช้เป็นสีน้ำตาลเข้มและเหนียวดี (ถ้าเหนียวมากจนเกินไปค่อยๆ ใส่น้ำสะอาดลงไปเล็กน้อยแล้วผัดต่อให้เข้ากัน) เมื่อไส้ได้ที่แล้ว ให้ตักใส่ภาชนะพักไว้ให้เย็นตัว และปั้นเป็นก้อนกลมๆตามขนาดที่ต้องการ
  3. ผสมแป้งกับน้ำเปล่า นวดให้เข้ากัน นวดให้แป้งเหนียวแบบปั้นได้
  4. ต่อกันด้วยปั้นขนม แผ่แป้งเป็นแผ่นกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ใส่ไส้มะพร้าวอ่อนที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ลงไปตรงกลาง แล้วปั้น ให้ได้รูปขนมกลม
  5. ระหว่างนี้นำมะพร้าวอ่อนขูดนำไปนึ่งประมาณ 5 นาทีคลุกเกลือให้มีรสเค็ม แล้วค่อยไปต้มแป้งขนมโคที่ทำรอไว้ก่อนหน้านี้
  6. ตั้งน้ำให้เดือดแล้วใส่ขนมลงไปที่ละลูก รอให้แป้งขนมลอยตัวขึ้นมา จึงค่อยตักขึ้นมาคลุกกับมะพร้าวอ่อนขูดที่ทำรอไว้
เทคนิคหากต้องการได้ขนมโคหลากสีให้ผสมกับแป้งข้าวเหนียวตอนนวดแป้ง โดยที่สีม่วงจะได้จากดอกอันชัญ สีชมพูจากน้ำเฮลส์บลูบอย เป็นต้นค่ะ

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีทำสาคูไส้ไก่ Thai Dessert

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสมสาคูไส้ไก่
  1. เนื้ออกไก่บด 400 กรัม 
  2. หัวหอมแดง 400 กรัม 
  3. ถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด 1 ถ้วยตวง 
  4. พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา 
  5. รากผักชีหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ 
  6. กระเทียมหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ 
  7. น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ 
  8. น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ 
  9. ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ 
  10. น้ำตาลมะพร้าว 3/4 ถ้วยตวง 
วิธีทำไส้สาคูไส้ไก่ทีละขั้นตอน:  
  1. โขลกพริกไทย รากผักชี กระเทียมให้ละเอียด 
  2. หัวหอมแดงหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 
  3. ตวง น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟ ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดพอหอม ใส่เนื้ออกไก่ผัดจนไก่สุก ใส่หัวหอมแดง ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว ชิมรสให้มีรสเค็มหวานจัด ผัดต่อไปจนแห้งและเหนียว 
  4. ยกลงใส่ถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จานทิ้งไว้จนเย็น 
ส่วนผสมสาคูไส้ไก่ 
  • สาคูเม็ดเล็ก 3 ถ้วยตวง 
  • กระเทียมสับละเอียด 1/4 ถ้วยตวง 
  • น้ำมัน 1/2 ถ้วยตวง 
  • น้ำเปล่า 
วิธีทำสาคูไส้ไก่ทีละขั้นตอน:
  1. กระเทียมสับละเอียด เจียวกับน้ำมันให้เหลือง ตักขึ้นพัก 
  2. เทน้ำอุ่นลงในสาคูให้ทั่ว ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 1 ชม. อย่าให้ถูกลม ควรปิดฝาไว้ เมื่อครบ 1ชม.แล้ว นวดให้เข้ากัน ไม่ควรนวดนานจนเกินไป เพราะจะทำให้แป้งเหนียว (สูตรผสมน้ำอุ่น ใช้สัดส่วน น้ำเดือด 2  1/2 ถ้วย ผสมน้ำธรรมดา 2  1/2 ถ้วย จะได้น้ำอุ่นที่ค่อนข้างร้อน ต่อสาคู 1กก.)
  3. ก่อนที่จะนึ่งให้พรมน้ำให้ทั่วสาคูก่อน เดี๋ยวแป้งจะแตก
  4. นำสาคูมาก้อนหนึ่ง แผ่สาคูให้บางตักไส้ใส่ตรงกลาง เอาสาคูหุ้มไส้ให้มิด 
  5. ใช้ใบตองปูลังถึง ทาน้ำมันบนใบตองให้ทั่ว นำสาคูเรียงใส่ลังถึง อย่าเรียงให้ติดกัน พรมน้ำบนลูกสาคูให้ทั่ว นำไปนึ่งประมาณ 7 นาที เมื่อสุกแล้วยกลง พรมด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว ทิ้งไว้สักครู่ เอาสาคูขึ้นจากลังถึง ใส่ถาดที่หล่อด้วยน้ำมัน 
  6. เวลาจัด นำสาคูขึ้นจากถาดน้ำมันใส่จานโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว สาคูไส้ไก่รับประทานกับผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนู

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Doner Kebab สูตรเคบับไก่ เคบับเนื้อ

8 ความคิดเห็น

วันนี้ว่างๆ มาลองทำเคบับ อาหารโบราณสัญชาติตุรกี ไก่หมักด้วยเครื่องเทศ แล้วย่างบนเตา ที่กำลังนิยมในหมู่ผู้บริโภคทั้งไทยและเทศในยุคปัจจุบัน

เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม เคบับไก่
  1. สันในไก่ 5 กิโลกรัม
  2. กระเทียมพริกไทย 5 ขีด
  3. หอมหัวใหญ่ 1 หัว
  4. หอมแดง 5 หัว
  5. ผงปาปริก้า 3 ช้อนโต๊ะ
  6. ผงยี่หร่า 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมัน 1/3 กิโลกรัม
วิธีหมักไก่เคบับทีละขั้นตอน:  
  1. เตรียมน้ำหมักไก่เคบับ โดยนำกระเทียมพริกไทย, ผงปาปริก้า, ผงยี่หร่า, หอมหัวใหญ่, หอมแดง และน้ำมัน มาปั่นรวมกัน
  2. เตรียมไก่โดยนำเนื้อสันมาแล่ให้เป็นชิ้นบาง หลังจากนั้นวางให้สะเด็ดน้ำ
  3. นำเนื้อไก่ที่แล่แล้ว ลงไปหมักกับเครื่องหมักไก่เคบับที่เตรียมไว้ โดยหมักไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพื่อให้น้ำหมักไก่เคบับเข้าสู่เนื้อไก่
  4. นำเนื้อไก่ที่ผ่านการหมักอย่างน้อย 6 ชั่วโมงขึ้นเหล็กย่างไก่เคบับ
  5. ย่างไก่เคบับบนเตาอินฟาเรด ดูว่าไก่สุกแล้วจึงเริ่มแล่ แล้วห่อด้วยแป้งตอติญ่า Tortilla พร้อมผักสลัด+น้ำซอสโยเกริต+มายองเนส+ซอสพริก+ซอสมะเขือเทสตามแต่ละสไตล์

ติดตาม สูตรแป้ง Tortilla และ น้ำซอสโยเกริต ได้....

เครดิต: http://www.patongkebab.com/franchise/

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สูตรน้ำเชื่อมแบบใส และสูตรน้ำเชื่อมแบบเข้มข้น ไม่มีตกผลึก

9 ความคิดเห็น
เทคนิค + ส่วนผสม น้ำเชื่อมแบบใส และสูตรน้ำเชื่อมแบบเข้มข้น สูตรที่ 1 สูตรน้ำเชื่อมแบบใส
  • น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม 
  • น้ำสะอาด     1ลิตร 
สูตรที่ 2 สูตรน้ำเชื่อมแบบเข้มข้น
  • น้ำตาลทราย 4 กิโลกรัม 
  • น้ำสะอาด     2 ลิตร 
วิธีทำน้ำเชื่อมแบบใส และสูตรน้ำเชื่อมแบบเข้มข้น
  1. ต้มน้ำให้เดือดจัด โดยจะสังเกตุเห็นไอน้ำผุดขึ้นมาจากก้นหม้อแล้วจึงใส่น้ำตาลลงไป 
  2. ใช้ตะกร้อตีน้ำตาลให้เข้ากันน้ำจะเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อน้ำตาลละลายเข้ากันกับน้ำแล้วให้ปิดแก๊ส 
  3. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วบรรจุใส่ขวด ล้างข้างขวดให้สะอาด จะเก็บไว้ในตู้เย็น หรือนอกตู้เย็น ก็ไม่ตกผลึกค่ะ
หมายเหตุ น้ำเชื่อมทั้งสองสูตรนี้ ทำแล้วเก็บได้ 6 เดือนและตกผลึกน้ำตาลแน่ๆค่ะ แต่เอาเข้าจริง สำหรับ 1 สูตรนี้ขายสองวันก็หมดแล้วละค่ะ ร่ำรวยค่ะ

เพิ่มเติม ตัวอย่างสูตรน้ำมะนาว+น้ำเชื่อม+โซดา (สำหรับแก้ว 16 ออนซ์= มะนาวไซรัป 2ออนซ์, น้ำเชื่อม 2ออนซ์, โซดา 4ออนซ์ และน้ำแข็งเต็มแก้ว) น้ำมะนาวโซดา เพื่อสุขภาพ  อร่อยชื่นใจเลยละค่ะ

เครดิต: http://www.patongkebab.com/franchise/

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิธีปอกสับปะรด-Pineapple ให้สวยงามพร้อมเสิร์ฟ แบบใครๆก็ทำได้

0 ความคิดเห็น
แม่บ้านที่ต้องการปลอกสัปปะรดให้คุณสามีทานใครปลอกไม่เป็นมาดูไว้ค่ะ หลังจากที่ได้ดูวีดีโอนี้แล้ว ปัญหาในการปอกสับปะรดก็จะหมดไป แล้วคุณแม่บ้านก็จะชอบปอกสับปะรดด้วย อย่างคุณสามีที่บ้านก็เหมือนกัน ชอบกินสับปะรดแต่ไม่ชอบปอก เพราะมันทำยาก แต่ในวีดีโอนี้จะสอนคุณแม่บ้านถึงวิธีทำที่ดีและง่ายๆ คุณแม่บ้านดูแล้วจะชอบแน่นอน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสับปะรดยังหั่นและปอกอย่างนี้ได้ สุดยอด วิธีนี้ทำเป็นแล้วคงจะดีมากเลย

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

น้ำมะนาวโซดา เพื่อสุขภาพ

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม น้ำมะนาวโซดา
  • น้ำตาลเชื่อม 2 ออนซ์
  • น้ำมะนาวคั้น 2 ลูก
  • โซดา 1 ขวด
  • น้ำแข็ง
วิธีน้ำมะนาวโซดาทำทีละขั้นตอน:        
  1. ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใช้ไม้ตี-คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้
  2. ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อม น้ำมะนาว และโซดา คนผสมให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการของน้ำมะนาวโซดาเพิ่มเติม
น้ำมะนาวโซดา สามาถช่วยล้างพิษ หรือดีท็อกซ์ได้นะจ๊ะ พร้อมกันนี้ยังต้านสารอนุมูลอิสระที่เป็นตัวก่อเซลล์มะเร็งได้ เแต่ก็ต้องระวังให้มากหน่อยสำหรับผู้ที่เป็นโรคกะเพาะ หรือผู้ป่วยโรคทางเดินอาหาร เพราะมะนาวและโซดามีฤทธิ์เป็นกรด อาจจะเข้าไปกัดกระเพาะเข้าได้ ควรจะดื่มในปริมาณที่พอเหมาะพอควรนะคะ

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

ไก่ทอดหาดใหญ่ สูตรนี้อร่อยไม่รู้ลืม

0 ความคิดเห็น

เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ไก่ 1 กิโลกรัม
  • กระเทียมไทยกรีบเล็ก 40 กลีบ
  • พริกไทยเม็ด 30-40 เม็ด
  • ลูกผักชีป่น 2 ช้อนชา
  • ยี่หร่าป่น 1/2 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายแดง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีหรือแป้งข้าวเจ้า 4-5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช สำหรับทอด 

วิธีทำไก่ทอดหาดใหญ่ทีละขั้นตอน 
  1. ล้างไก่ให้สะอาด พักในตระแกรงให้สะเด็ดน้ำ
  2. โขลก กระเทียม พริกไทย ลูกผักชี และยี่หร่า เข้าด้วยกันให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับซอสปรุงรส เกลือป่น และน้ำตาลทรายแดง คลุกส่วนผสม ทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วจึงนำไปหมักกับไก่อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
  3. เมื่อหมักไก่ตามเวลาที่กำหนดจนได้ที่แล้ว จึงใส่แป้งสาลีลงไปในไก่ที่เราหมักเอาไว้ จากนั้นคลุกให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  4. นำไก่ทอดในน้ำมันพืช จนสุกเป็นสีน้ำตาลทอง ตักขึ้น พักในตะแกรงจนสะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่กับหอมเจียว น้ำจิ้ม และข้าวเหนียวร้อนๆ

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับในการบั้งปลาหมึกให้สวยงาม

0 ความคิดเห็น


มาดูวิธีการบั้งปลาหมึก หรือที่มักจะเรียกกันว่าหมึกบั้ง หรือปลาหมึกบั้งตาสับปะรด
  1. ก่อนอื่นให้นำหมึกทั้งตัวมาล้างทำความสะอาด ดึงหัว ดึงกระดอง ถุงหมึก และลอกหนังออกก่อน จากนั้นใช้มีดคมๆ ปาดด้านข้างของหมึก(ด้านเดียว) แผ่ตัวหมึกให้แบนออก เวลาบั้งเนื้อหมึกให้บั้งด้านในของตัวหมึกจะง่ายและสวยกว่า โดยยังไม่ต้องหั่นหมึกเป็นชิ้น จะทำให้สะดวกและง่ายในการบั้งหมึกมากขึ้น
  2. ขั้นตอนการบั้ง รูปแบบของรอยบั้งจะขึ้นอยู่กับการวางมีด ถ้าวางมีดตั้งฉากกับเนื้อหมึกหรือ 90 องศา เวลาบั้ง เนื้อหมึกก็จะได้ออกมาเป็นลายตาข่ายหรือลายตาราง แต่ถ้าวางมีดเอียง 45 องศา รอยบั้งของหมึกก็จะเป็นรูปเกล็ดแหลม ดูแปลกตา แต่ถ้าบั้งทางเดียว(ไม่บั้งสลับอีกด้าน) ก็จะได้รอยบั้งเป็นลายคล้ายๆ กระเบื้อง
  3. เมื่อบั้งหมึกเสร็จแล้วจึงค่อยหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ ซึ่งก็มีเทคนิคอีกว่า ถ้าหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม หมึกก็จะม้วนเป็นทรงกระบอก แต่ถ้าหั่นเป็นสามเหลี่ยมหรือรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ก็จะได้รูปแบบการม้วนของหมึกที่ดูแปลกตาขึ้นอีก
  4. หมึกที่จะนำมาบั้งได้สวย ต้องเป็นหมึกที่มีเนื้อค่อนข้างหนา เช่นหมึกหอม ส่วนบั้งแล้วจะสวยงามและรูปร่างออกมาดูดีเพียงใด ที่เหลือก็ต้องไปฝึกฝีมือและการใช้มีดกันเองแล้วละครับ
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม ปลาหมึกมีกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ! มีอยู่จำนวนมาก  ซึ่งจะช่วยในการลดปริมาณคลอเลสเตอรอลได้ดี  ถึงแม้ว่าปลาหมึกจะมีโคเลสเตอรอลอยู่ด้วย    แต่โดยทั่วไปเมื่อเจอกับโอเมก้า  3  ซึ่งจะถูกสังเคราะห์ได้ดีกว่าและเป็นตัวต่อต้านคลอเลสเตอรอลไม่ให้สูง  หรือไม่ให้เพิ่มขึ้น เราจะเห็นได้ว่า คนญี่ปุ่นจะกินอาหารทะเลทุกชนิด รวมทั้งปลาหมึก และไม่พบว่าเกิดโรคหัวใจ  เมื่อเทียบกับคนในประเทศทางด้านยุโรป   ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณโอเมก้า 3 นั่นเอง  และคนญี่ปุ่นยังมีสุภาษิตที่ว่า “Eat Squid Stay Young”

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ต้มแซ่บทะเล

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสมต้มแซ่บทะเล
  • กุ้งแช่บ๊วยสดปอกเปลือกผ่าหลัง 10 ตัว
  • ปลาหมึกหั่นแว่น 100 กรัม
  • ปลาเก๋าหั่นชิ้น 100 กรัม
  • เนื้อหอยแมลงภู่ 5 ฝา
  • ข่าหั่นแว่นบาง 3 – 4 แว่น 
  • ตะไคร้หั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 2 ต้น
  • หอมแดงบุบ 6 หัว
  • ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
  • หอมใหญ่หั่นแว่น 1 หัว 
  • กระเทียมบุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ 
  • พริกขี้หนูสวนบุบพอแตก 5 - 6เม็ด 
  • ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ ๆ 2 ช้อนโต๊ะ 
  • ใบโหระพา ¼ ถ้วย 
  • ข้าวคั่ว ¼ ถ้วย
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย 
วิธีทำต้มแซ่บทะเลทีละขั้นตอน:
  1. ใส่น้ำลงในหม้อพอเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูดลงไป
  2. ใส่หอมใหญ่ กระเทียม ลงไป พอน้ำเดือดเต็มที่ ใส่อาหารทะเลทั้งหมด 
  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำมะนาว พริก ข้าวคั่ว แล้วใส่โหระพา ผักชีฝรั่งลงไป ยกลงจากเตา ตักทานร้อนๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติต้มแซ่บที่ได้จะมีรสเปรี้ยวนำ หากชอบเค็มสามารถเติมน้ำปลาเพิ่มได้ตามชอบ
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม อาหารทะเลเป็นแหล่งอาหาร ที่ให้สารโปรตีนที่มีคุณภาพดี และยังมีธาตุไอโอดีน ซึ่งช่วยป้องกันโรคคอพอก

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สูตรแป้งซาลาเปา

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสมแป้งซาลาเปา
  • แป้งสาลี 1 กิโลกรัม
  • ผงฟู 4 ช้อนโต๊ะ 
  • ยีสต์หวาน 4 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำเปล่า 1,000 กรัม 
  • น้ำตาลทราบ 480 กรัม 
  • เนยขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 2 ช้อนชา

วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. ร่อนแป้งและผงฟู แล้วใส่ยีสตีผสมจนเข้ากัน 
  2. นำน้ำตาลและเกลือ ละลายในน้ำเปล่า ค่อยๆเติมลงในส่วนผสมแป้ง นวดในเครื่องนวด 15 นาที จนแป้งขาวเนียน  จับแป้งมาแผ่ดูแล้วไม่ขาด  
  3. เติมเนยขาว แล้วนวดจนเนียน ต่ออีก 5 นาที แป้งจับตัวกันเป็นก้อน แป้งไม่ติดมือและไม่ติดโถเครื่องนวด เอาผ้าคลุม พักไว้ 15 นาที 
  4. นวดไล่อากาศประมาณ 1 นาที แล้วคลึงแป้งเป็นเส้น ตัดแบ่งก้อนละ 25-30 กรัม 
  5. คลึงเป็นก้อนกลมบนโต๊ะทาเนยขาวไว้บางๆ ใช้สันมือติดกับพื้น เรียงลำดับก้อนแป้งก่อนหลัง แล้วเอาผ้าคลุมเอาไว้ 
  6. ใช้ไม้คลึงแป้งก้อนแรก ให้เป็นแผ่นวงกลม ใส่ไส้ประมาณ 1 สคูปไอศกรีม เส้นผ่นศุนย์กลางประมาณ 4 ซ.ม. จับจีบจนรอบวางบนกระดาษซาลาเปา 
  7. เรียงเอาไว้บนลังถึง เอาผ้าหรือแผ่นพลาสติกคลุมไว้ พักแป้งให้แป้งขึ้นเท่าตัว สังเกตผิงแป้งจะตึงตัว ให้นำไปนึ่ง 
  8. ต้มน้ำให้เดือดพล่าน แล้วลดไฟ นำลังถึงซาลาเปาที่ขึ้นได้ที่ ไปนึ่งนานประมาณ 10 นาที การนึ่งนั้นห้ามเปิดฝา เพราะจะทำให้ไอน้ำหยดลงหน้าแป้งซาลาเปา และให้เจาะรูลังถึงนึ่งรอบข้างเพื่อให้น้ำไหลลงตามรูที่เจาะ จะทำให้หน้าซาลาเปาสวยยิ่งขึ้น

รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม สารอาหารที่ได้รับจากซาลาเปาหลักๆก็จะมี แป้ง โปรตีน และไขมัน และยังเป็นของที่คนงานนิยมทานกันมากเพราะหาซื้อง่าย ถูก เร็ว ได้คุณค่าทางอาหาร

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เครปญี่ปุ่น ไส้ยอดนิยม

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ไข่ไก่สด 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • แป้งอเนกประสงค์ตราว่าว 2/3 ถ้วย
  • นมสด 3/4 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
  • กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา
วิธีทำลูกเขยทีละขั้นตอน:
  1. ร่อนแป้งเตรียมไว้ เติมน้ำตาลทรายและเกลือ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ
  2. เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่ นมสด และกลิ่นวานิลา คนให้เข้ากัน ระวังอย่าให้เป็นเม็ด
  3. เตรียมอุ่นเตาให้ร้อน ทาเนยเล็กน้อยจะทำให้แป้งไม่ติดกะทะ
  4. ตักส่วนผสมประมาณ 1 ทัพพี หยอดลงบนเตา เกลี่ยด้วยไม้เครปให้เป็นรูปวงกลมโดยการหมุนไม้เครปไปรอบๆรัสมีเตา ปลายข้างหนึ่งอยู่จุดศูนย์กลางเตา จะทำให้ได้เครปที่กลมสวย
  5. สักพักแป้งใกล้สุก ให้เติมใส้ที่ต้องการ โดยทาหรือเกลี่ยใส้ทั่วแป้งเครปหรือถ้าไส้เป็นชิ้นหนาเช่นไส้กรอก แฮม ทูน่า ควรวางเพียงครึ่งเดียวจะพับได้สดวกกว่า
  6. ใช้ที่แซ่ะขนม หรือเกรียงแซ่ะขอบ พับครึ่งก่อน แล้วจึงพับประกบด้านซ้าย ขวา
  7. ใส่ซองเครปแบบกระดาษที่เตรียมไว้
ใส้เครปยอดนิยม ด้วยสนนราคาก็ง่ายๆ จริงๆค่ะเช่น
  • 1 อย่าง 25.-
  • 2 อย่าง 30.-
  • 3 อย่างอัพ 35-40-50-60-70...100 บวกเพิ่มกันไปแล้วแต่ว่าอยากใส่กี่อย่าง อย่างเช่น
       ไส้ครีมกล้วยหอมและเนยถั่ว
       ไส้แยมสตรอเบอรี่ + กล้วย ราดช็อกโกแลต
       ไส้กล้วยหอม + ชอคโกแลต
       ไส้ช็อกโกแล็ตเหลว
       ไส้ครีม สังขยาใบเตย
       ไส้แฮมไก่ ทูน่า หรือไส้กรอก ใส่ซ๊อสมะเขือเทศ และมายองเนส
       ไส้ไก่หยองน้ำพริกเผา
       ไส้แยมต่างๆ(ควรใช้แยมที่มีเนื้อผลไม้มากหน่อย) เช่น แยมสตรอเบอรี่ แยมส้ม
       ไส้มะพร้าว โรยน้ำตาล
       ไส้ลูกเกด
       ไส้น้ำผึ้ง + เม็ดมะม่วงหิมพานต์
       ไส้วนิลา + ทูน่า + เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ต้นทุนของเครป
ค่าใช้จ่ายๆ ต่างในการทำเครปใช้เงินลงทุนไม่มาก ประมาณ 10,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ดังต่อไปนี้
  • เตาเครป (อาจเป็นเตาไฟฟ้า ราคาประมาณ 6500-8000บาท หรือ เตาแก๊ส ราคาประมาณ 2500-4500บาท), โต๊ะ
  • ไม้ปาดเครป, เกรียง (แบบเหล็กหรือสแตนเลส)
  • อื่นๆ เช่น วัตถุดิบสำหรับทำเครป เช่น แป้งเครป, ไส้เครปต่างๆ, ฯลฯ ซองกระดาษสำหรับใส่เครป, ทัพพีกลม, ฯลฯ กรณีทำเครปเย็นอาจมีค่าใช้จ่ายในส่วนการแต่งหน้าเครปด้วย เช่น วิปปิ้งครีม, ครีมสด, ฯลฯ

ว่าแล้วกี๋มีเมนูใหม่เข้าร้าน เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าค่ะ ใครสนใจทำเครป ลองทำตามสูตรเครปนี้ได้นะค่ะ จะทำทานเอง ทำเลี้ยงเพื่อน หรือจะทำเป็นงานหลัก, งานเสริมถ้าได้ทำเลดีๆ คืนทุนภายในเดือนแรกแน่ๆค่ะ

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ไก่หยอง

0 ความคิดเห็น

เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • เนื้อไก่                   400 กรัม
  • กระเทียม                 2-3 กลีบ
  • น้ำตาลทราย             2  ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว(soy sauce)  2  ช้อนโต๊ะ
  • ผงพะโล้                2  ช้อนชา
  • น้ำมันพืช                 ½ ถ้วย
วิธีทำลูกเขยทีละขั้นตอน:
  1. ล้างไก่ให้สะอาดทั้งภายในและภายนอก หั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นพอควร  นำไก่ใส่หม้อเติมน้ำ 1-2 ถ้วยแต่ไม่ต้องให้ท่วม  เติมซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผงพะโล้ ทุบกระเทียมใส่ลงไป  ยกขึ้นตั้งเตา  
  2. พอไก่สุก  นำไก่ขึ้นจากหม้อมาลอกหนัง  ฉีกเอาแต่เนื้อไก่เป็นชิ้นใหญ่ๆ  ใส่ลงหม้อต้ม  เคี่ยวจนน้ำในหม้อแห้งจึงยกหม้อลง
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช  ใช้ไฟไม่แรง  ฉีกเนื้อไก่เป็นฝอยละเอียด  ทุบกระเทียมใส่กระทะ  ใส่เนื้อไก่ฉีกฝอยลงผัดไปมาอย่าให้ไหม้  พอเนื้อไก่เป็นสีเหลืองนวลจึงตักขึ้นได้
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม มีโปรตีน จากเนื้อไก่ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

ไข่ลูกเขย

0 ความคิดเห็น
ไข่ลูกเขยสูตรเผ็ดหวาน
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • น้ำมะขามเปียก  1 ถ้วยตวง
  • น้ำปลา  1/3 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลปี๊บ  100 กรัม
  • หัวหอมแดงซอยทอด 1/2 ถ้วยตวง
  • พริกขี้หนูแห้ง(ทอด) 15 เม็ด
  • ผักชี 1 ต้น
  • ต้นหอม 1 ต้น
วิธีทำลูกเขยทีละขั้นตอน:
  1. ตั้งกะทะพอร้อนใส่น้ำมัน เอาหอมแดงลงไปผัดจนหอม เติมน้ำให้เดือดใส่น้ำตาลปี๊บ หรือ น้ำตาลทราย เคี่ยวให้เป็นไซรัพ ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา ปรุงรส หวานนำ เปรี้ยว เค็ม ตามชอบ
  2. ไข่ที่ต้มไว้แกะเปลือก (วิธีต้มไข่ยางมะตูม + เติมเกลือเล็กน้อยเพื่อจะได้ปอกไข่ได้ง่าย) นำลงทอดในน้ำมันร้อน  เน้นต้องทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด (หมั่นคนบ่อยๆ จนไข่เหลืองสวยทั่วกัน) สังเกตุพอเหลืองคล้ายจะไหม้ ให้ยกขึ้นและพักไข่ไว้พอเย็นใช้ด้ายผ่าครึ่ง
  3. ราดน้ำที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยหอมเจียว ผักชี ต้นหอม
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม ของไข่ไก่และไข่เป็ด ทั้งสองมีส่วนคุณค่าของสารอาหารที่แตกต่างกัน เช่นไข่ไก่หนือกว่าไข่เป็ด ในด้านโปรตีน แคลเซี่ยม เหล็ก แต่ไข่เป็ดกลับเหนือว่าในด้านพลังงาน ไขมัน วิตามิน บี 1 วิตามิน บี 2

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

ทอดมันปลากราย

0 ความคิดเห็น

เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • เนื้อปลากรายขูด 500 กิโลกรัม
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำเย็นจัด 4 ช้อนโต๊ะ
  • พริกแกงเผ็ด 300 กรัม (พริกแห้ง 3เม็ด  หอม 3หัว  กระเทียม 10กลีบ  กะปิ 1ช้อนชา  ข่า 3แว่น  ตะไคร้ 2ช้อนโต๊ะ  ผิวมะกรูด 1ช้อนชา  พริกไทย 10เม็ด)
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำปลาดี
  • น้ำตาลทราย
  • ถั่วผักยาว
  • ใบกะเพรา 3 ถ้วย
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำทอดมันปลากราย:
เอานำเนื้อปลากรายที่ขูดไปโขลกให้เหนียว เยาะน้ำปลาทีละน้อย จึงจะเหนียวดี พอเหนียวดี รวมนวดกับน้ำปลา ไข่ ถั่วฝักยาว และใบมะกรูดหั่นฝอย (ทำครั้งหนึ่งใช้ได้2-3 วันโดยการใส่ตู้เย็นไว้ และปิดด้วยกระดาษฟรอย) ปั้นเป็นก้อนกลมและกดให้แบนทอดในน้ำมันร้อนๆ พอเหลืองตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่จานทานได้เลยค่ะ

คุณค่าสารอาหาร โปรตีนในปลามีทั้งคุณภาพและปริมาณที่ดีและเหมาะสม ซึ่งเป็นโปรตีนดีที่ย่อยง่าย มีส่วนนำไปเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ซึ่งเสื่อมสลายให้อยู่ในสภาพปกติ

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

ไข่ยางมะตูม

0 ความคิดเห็น
ไข่ต้มยางมะตูม
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ไข่เป็ด 10 ฟอง
  • น้ำเปล่า
วิธีทำไข่ต้มยางมะตูมทีละขั้นตอน:
  1. นำไข่เป็ดไปล้างทำความสะอาด ในกรณีนี้จะลองต้มไข่ที่จำนวน 10 ฟอง นะคะ (นำไข่เป็ดไปแช่น้ำ หากไข่เป็ดที่มีความสดใหม่หากนำไปแช่น้ำจะจมติดก้นภาชนะทุกลูกในแนวนอน)
  2. นำไข่เป็ดใส่หม้อ และใส่น้ำให้น้ำท่วมไข่เพียงนิดเดียวเท่านั้น
  3. ต้มไข่ โดยตั้งไฟกลางค่อนข้างแรง แล้วเริ่มจับเวลาตั้งแต่ติดไฟ 10 นาที (ไข่ไก่ 3 นาที  ไข่เป็ด ไข่ห่าน 10 นาที่ )
  4. เมื่อเริ่มเข้านาทีที่ 5-8 น้ำจะเริ่มเดือด เมื่อครบ 10 นาที ให้ตักไข่เป็ดใส่น้ำเย็นทันที ก็ตักไข่ขึ้นแช่ในนำเย็นจัด จนกระทั่งหายร้อน 
  5. ปอกเปลือกไข่ แบ่งไข่ต้มออกเป็น 2 ซีก โดยใช้ด้ายขาวขึงตึง ซึ่งจะช่วยให้แบ่งซีกไข่ได้ง่าย และสวยงามมากขึ้น
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม ของไข่ไก่และไข่เป็ด ทั้งสองมีส่วนคุณค่าของสารอาหารที่แตกต่างกัน เช่นไข่ไก่หนือกว่าไข่เป็ด ในด้านโปรตีน แคลเซี่ยม เหล็ก แต่ไข่เป็ดกลับเหนือว่าในด้านพลังงาน ไขมัน วิตามิน บี 1 วิตามิน บี 2

วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

มักกะโรนีผัดไก่ กุ้ง

0 ความคิดเห็น
มักกะโรนีผัดไก่
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • มักโรนี 200 กรัม
  • มะเขือเทศสด 6 ลูกใหญ่
  • ซอสมะเขือเทศ  1/3 ถ้วย
  • ซอสพริก 1/3 ถ้วย
  • เนื้อไก่ เนื้อกุ้ง 150 กรัม
  • หอมใหญ่  1 หัว
  • ต้มหอม  1 ต้น
  • พริกไทยป่น  1/2 ช้อนชา
  • น้ำมัน
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. เตรียมเส้น และเนื้อไก่ ส่วนกุ้งสดล้าง ปอกเปลือกออก ผ่าหลังเอาเส้นดำออกค่ะ
  2. น้ำเดือดใส่เกลือป่นไป 1 ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ใส่เกลือป่นเพื่อให้เส้นมีรสชาติอยู่ในตัวเล็กน้อย ใส่น้ำมันพืชเพื่อกันเส้นติดกันตอนต้มค่ะ แล้วลดไฟลงเหลือกลางๆ พอค่ะ นำกะโรนีลงไปในหม้อ ใช้ทัพพีคนเป็นระยะเพื่อกันเส้นติดก้นหม้อ และเป็นการกันไม่ให้เส้นติดกันค่ะ จับเวลานับจากหย่อนมักกะโรนีไปประมาณ 12-15 นาทีค่ะ เสร็จแล้วแช่มักกะโรนีไว้ในน้ำเย็นสักพักแล้วนำมักกะโรนีใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำไว้ค่ะ
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนใส่ไก่และใส่กุ้ง
  4. ผัดจนไก่และกุ้งสุกสักเล็กน้อย ยังไม่ต้องสุกมากค่ะ
  5. ใส่ไข่ ผัดจนไข่สุก ใส่หอมใหญ่ ผัดๆ ต่อแล้วใส่มักกะโรนี ตามด้วยซอสมะเขือเทศ  ซอสพริกเล็กน้อย ซอสฝาเขียว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น
  6. ผัดจนหอมใหญ่สุก ใส่มะเขือเทศและต้นหอม  ผัดให้คลุกเคล้ากันทั่ว แล้วตักใส่จาน พร้อมทานค่ะ

รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม มักกะโรนีผัดไก่ กุ้งมีสารอาหารมาก เช่น มีโปรตีน มีธาตุไอโอดิน

ไก่ตะไคร้

0 ความคิดเห็น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • สะโพกไก่ 2 ชิ้น
  • ตะไคร้อ่อนซอย 1/2 ถ้วยตวง
  • หอมแดงซอง 1/4 ถ้วยตวง
  • รากผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1-2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนชา
  • แป้งข้าวจ้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  • นมสด 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. สะโพกไก่ล้างน้ำให้สะอาดผึ่งให้สะเด็ดน้ำแล้วลงในนมสดนวดไปมาทิ้งไว้ 15 นาที
  2. โขลกตะไคร้ (เหลือไว้เจียวโรยหน้าประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) หอมแดง รากผักชี พริกไทยโขลกให้ละเอียด
  3. ผสมเครื่องที่โขลกกับพริกป่นเกลือ ซีอิ๊วขาว แป้งข้าวจ้าวเข้าด้วยกัน ใส่ลงในไก่ที่หมักกับนมไว้ เคล้าให้เข้ากัน หมักต่ออีก 1 ชั่วโมง
  4. นำไก่ลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดจนสุกเหลือง ตักขึ้นจัดใส่จาน ตะไคร้ที่เหลือไว้นำลงทอดให้เหลืองตักขึ้น โรยหน้าไก่ที่ใส่จานรอทานค่ะ
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
ตะไคร้ ให้สารอาหารประเภทเกลือแร่ และวิตามิน และช่วยบรรเทาอาการจุก เสียด แน่นท้อง เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

ปลาดุก ปลาช่อนทอดขมิ้น

0 ความคิดเห็น
ปลาดุกทอดขมิ้น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ปลาดุกหรือปลาช่อน 1 ตัว
  • ขมิ้นซอย 1 ถ้วย
  • กระเทียม 4 - 5 กลีบ
  • เกลือป่น ½ ช้อนชา
  • พริกไทย ½ ช้อนชา
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. ล้างทำความสะอาดปลาให้สะอาด อย่าลืมผ่าท้อง ควักไส้ออกด้วย จากนั้นบั้งเนื้อปลาทั้งสองด้าน
  2. เอาขมิ้น กระเทียม พริกไทย และเกลือป่นโขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปคลุกตัวปลาดุกให้ทั่วทั้งตัว หมักทิ้งเอาไว้ 10-20 นาที
  3. เมื่อได้ที่แล้วให้ตั้งกะทะใส่น้ำมันให้ร้อน จากนั้นนำปลาดูกที่หมักไว้ลงไปทอด เมื่อปลาเหลืองกรอบทั้งสองด้านแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
ปลาดุก ให้โปรตีนในปริมาณที่สูงพอสมควร โดยเฉพาะโปรตีนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายมนุษย์อย่างเราๆ ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นพวกเล่นเพาะกายหรือฟิตเนสด้วยแล้วยิ่งมีความต้องการสูง

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ปลาช่อน 1 ตัว ปลาช่อนเลี้ยง(แปะซะ) ขนาดกลาง 110 - 115 กิโลกรัม
  • ผักกระเฉด 150 กรัม
  • ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ดอกแคร์ แครอท
  • น้ำส้มมะขามเปียก 6-8 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำพริกแกงส้มสำเร็จรููป 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืชสำหลับทอดปลา
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. ขอดเกล็ดปลาช่อนล้างท้องให้สะอาด หั่นปลาเป็นท่อน หรือบั้งเนื้อปลาทั้งสองด้านแล้วนำไปคลุกเกลือ 1 ช้อนชา แล้วทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ ส่วนท่อนหางนำไปต้มในน้ำเดือดให้สุกไว้ทำเครื่องน้ำพริก
  2. น้ำพริกแกงส้มถ้าชอบรสจัดเข้มข้น สามารถนำพริกแห้ง 3 เม็ดแช่น้ำเอาเมล็ดออก หอมแดง 3 หัว กะปิ 1 ช้อนชา โขลกละเอียดผสมกับน้ำพริกแกงส้ม 3 ช้อนโต๊ะ แล้วแกะเนื้อปลาที่ต้มไว้โขลกกับน้ำพริก
  3. ตั้งน้ำครึ่งหม้อ (ประมาณ 3 ถ้วย) ผสมน้ำต้มปลาตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ พอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ปรุงรสตามชอบ
  4. ผักทั้งหมดล้างน้ำให้สะอาด หั่นกะหล่ำปลี ผักกาดขาวเป็นท่อนๆ แครอท ถั่วฝักยาว หั่นเป็นท่อนๆ
  5. ผักกระเฉดเด็ดเอายอดหรือส่วนที่อ่อนๆ ใส่ผักลงหม้อ (ยกเว้นผักกระเฉด) พอผักนุ่มชิมรสอีกครั้งปรุงรสให้ถูกใจ ใส่ผักกระเฉด ใส่ปลา คนให้ทั่วยกขึ้นทันที ตักใส่ถ้วยเสริฟร้อนๆจึงจะอร่อยกรอบ ถ้าต้มนานไปผักจะสลดเหนียวไม่อร่อย
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
คุณค่าทางโภชนาการของผักกระเฉด 100 กรัมจะมี ธาตุแคลเซียม 123 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าสูงมาก นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย เส้นใย ธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน วิตามินบี3 วิตามินซี อีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

ปอเปี๊ยะสด

0 ความคิดเห็น

เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • เต้าหู้ขาว  5 ก้อน
  • เนื้อไก่ 300 กรัม
  • เนื้อปูแกะ 300 กรัม
  • ถั่วงอก 1.5 กิโลกรัม
  • แตงกวา 5 ลูก หั่นตามยาว
  • พริกชี้ฟ้า 10 ดอก หั่นเป็นเส้น 
  • ไก่เชียง  3 เส้น
  • น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
  • ผงพะโล้ 1 ซอง
  • ซีอิ้วดำ
  • น้ำมันหอย
  • น้ำมันงา + งาขาวคั่ว
  • กระเทียมเจียว
  • แผ่นปอเปี๊ยะ (กิโลกรัมละ 80-100 บาท)

วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. เตรียมไก่กับเต้าหู้กันก่อน บุบกระเทียม พริกไทย รากผักชี ลงหม้อ
  2. ใส่อบเชยลงไป 1 ท่อนสักท่อนหรือใครจะใส่ผงพะโล้ก็ได้ ให้มีกลิ่นอบเชยอ่อนๆ
  3. พอน้ำเดือดใส่ไก่กับเต้าหู้ลงไป ใส่ซีอิ๊วดำกะพอให้สีสวย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เต้าหู้อย่าต้มนานจนแข็งจะไม่อร่อย ไก่สุกแล้วเอาขึ้นและพักไว้ให้เย็น ส่วนน้ำที่ต้มให้กรองเก็บไว้สำหรับทำน้ำราด เก็บอบเชยเอาไว้ด้วยนะคะ 
  4. จับเครื่องทั้งหมดเรียงๆ ลงไป ห่อใส่ในแผ่นปอเปี๊ยะ เมื่อห่อเสร็จก็ตัดเป็นคำๆ ทำทานเองชอบอะไรใส่ลงไปได้เต็มที่เลยค่ะ หลังจากนั้นจัดลงจานราดน้ำเป็นอันเรียบร้อยค่ะ

รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
ถั่วงอก ถั่วงอกเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะมีโปรตีน วิตามินและเกลือแร่
ต้นหอม จะช่วยขับเหงื่อ แก้อักเสบบวมแดง ป้องกันโรคหวัดเย็น ปวดศีรษะ คัดจมูก ฝีหนองบวมปวด
ผักชี ช่วยในการละลายเสมหะ ช่วยในการแก้หัด หรือผื่น ช่วยในการขับเหงื่อขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
แตงกวา มีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้ จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม เกิดขึ้นมาแทนที

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

มันฝรั่งทอด (French Fries)

0 ความคิดเห็น
French Fries
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • มันฝรั่ง
  • น้ำมันปาล์ม
  • เกลือป่นสำหรับโรย
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. มันฝรั่งหัวขนาดพอเหมาะๆ ไม่ใหญ่เกินไป ไม่เล็กเกินไป  นำมาล้างเปลือกให้สะอาด แล้วปอกเปลือก หั่นเป็นแท่งๆ ขนาดที่เราต้องการ หลังจากนั้นแช่และล้างด้วยน้ำผสมเกลือป่น เพื่อเป็นการล้างเอายางของมันออก แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ
  2. ต้มน้ำที่ตั้งไฟรอ กะให้ท่วมมันฝรั่งพอดี เดือดได้ที่ นำลงต้มพอสุกอย่าให้เละ และตักแช่ในน้ำเย็นจัด และพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ และเย็นตัวลงแล้ว
  3. นำมันฝรั้งที่พักไว้ลงทอดในน้ำมันปาล์ม โดยตั้งอุณหภูมิ ในการทอดให้อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 130-140 องศา แล้วนำมันฝรั่งลงทอดประมาณ 3-5นาที แล้วแต่ว่าชอบกรอบมาก น้อยแค่ไหนค่ะ
  4. ตักออกมา โรยด้วยเกลือป่นแบบเกลือไอโอดีนโรยนิดหน่อยเขย่าๆให้เคล้ากันจนทั่ว ก็พร้อมทานแล้วล่ะค่ะ
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
มันฝรั่ง 100 กรัม สามารถให้พลังงานจากสารอาหารประเภทโปรตีนได้ถึง 85 แคลอรี่ ในกลุ่มแร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ แคลเซียม โปรแตสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีน แมกนีเซียม กรดโฟลิก ส่วนกลุ่มวิตามินที่ได้ ก็จะมีทั้ง วิตามิน ซี บี-1 และบี 2 การมีสารอาหารประกอบมากมายหลายชนิด ทำให้ทหารเรือสมัยก่อน นิยมตุนมันฝรั่งเป็นเสบียงเพื่อบริโภคจำนวนมาก ข้อดีของมันฝรั่งเก็บง่ายและเก็บไว้ได้นาน เหมาะกับการเก็บตุนเป็นเสบียงได้อย่างดี

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

พะแนงไก่

0 ความคิดเห็น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • สันในไก่ 300 กรัม
  • หัวกะทิ กะทิครึ่งกล่อง
  • หางกะทิ 100 มิลลิตร + น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
  • น้ำพริกแกงพะแนง 50 กรัม
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
  • ใบมะกรูด 3 ใบ
  • ใบโหระพา 10 กรัม
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. เตรียมเครื่องกันก่อนค่ะ ซอยใบมะกรูด มีดต้องคมนะค่ะ ม้วนๆใบแล้วซอย พริกชี้ฟ้าเวลาซอยก็หมุนพริกไปเรื่อยๆน่ะค่ะ ไส้พริกจะได้ไม่หลุดออกมา
  2. เคี่ยวหัวกะทิพอแตกมัน ต้องเคี่ยวไฟอ่อน ใจเย็นๆ ไม่ต้องคนบ่อยจนเกินไป ใส่พริกแกงพะแนงลงผัดจนหอม ค่อยๆเติมส่วนหางกะทิลงผัดจนกะทิแตกมัน โดยใช้ไฟอ่อน
  3. ใส่เนื้อไก่ลงผัด จนพอสุกปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผัดต่อจนไก่สุก หากชอบน้ำน้อยก็เคี่ยวนานหน่อย
  4. ตักใส่จานเสริ์ฟ น้ำแกงขลุกขลิก แต่งหน้าด้วยใบโหระพา ใบมะกรูดหั่นฝอย พริกชี้ฟ้าแดงหั่นซอยรอไว้แล้ว
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
มีโปรตีน ไขมันพอประมาณ ให้พลังงานไม่สูงนัก ใยอาหารได้จากเครื่องแกง ใบโหระพาที่มีลักษณะสีเขียวเข้ม เป็นแหล่งที่สำคัญของสาร เบต้า แคโรทีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ อันเป็นปัจจัยในการเกิดโรคมะเร็ง  โรคหัวใจขาดเลือด 

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

คั่วกลิ้ง

0 ความคิดเห็น
คั่วกลิ้วไก่สับ
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • หอมแดง 2 หัว
  • กระเทียม 3 กลีบใหญ่
  • พริกไทย 10 เม็ด
  • ขมิ้น 1 แง่งเล็ก
  • พริกแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • เนื้อสับ หรือไก่สับ 300 กรัม
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 10 ใบ
  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น
  • น้ำมันพืช
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. นำส่วนผสมสำหรับทำเครื่องแกง หอมแดง, กระเทียม, พริกไทย, ขมิ้น, พริกแห้ง, เกลือ   โขลกให้ละเอียด
  2. ใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย  (กรณีเนื้อไม่ติดมัน) ผัดให้เนื้อสุก
  3. ใส่เครื่องแกงที่โขลกลงผัดให้หอมเข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลชิมรส
  4. ใส่พริกไทยอ่อน ใส่ตะไคร้ซอย ใบมะกรูด ผัดให้แห้งยกลงตักใส่จาน เคล็ดลับการทำคั่วกลิ้งให้แห้งคือต้องรวนไก่สับหรือเนื้อสัยให้น้ำในเนื้อแห้งก่อน แล้วจึงนำน้ำพริกคั่วกลิ้งลงไปคั่วกับเนื้อหรือไก่ โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเยอะค่ะ
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
สำหรับตะไคร้ มีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ, เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยในการเจริญอาหาร, สารสกัดจากตะไคร้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคเมะเร็งลำไส้ใหญ่, แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ
สำหรับข่ารักษากลาก เกลื้อน และเชื้อรา ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และขับเลือดเน่าเสียในหญิงหลังคลอดบุตร
สำหรับใบมะกรูดจะช่วยลดความดันโลหิต ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อเหา

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

น้ำพริกอ่อง

0 ความคิดเห็น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม                
  • ไก่สับ           250 กรัม
  • มะเขือเทศสีดา   10-15 ลูก
  • พริกแห้งบางช้าง   3 เม็ด
  • ข่า                2 แว่น
  • กะปิ             1 ช้อนโต๊ะ 
  • หอมแดง      2 หัว
  • กระเทียมกลีบเล็ก  4 กลีบ
  • รากผักชี      2 ราก
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช     2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา        1 ช้อนโต๊ะ   
  • น้ำซุป         1 ถ้วย
  • ต้นหอมซอย, ผักชีซอย  
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. นำส่วนผสมพริกแกงคือ พริกแห้ง หอม กระเทียม ข่า รากผักชี มะแหลบ และกะปิ โขลกรวมกันให้ละเอียด 
  2. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน ตามด้วยพริกแกง ผัดให้หอม ใส่ไก่สับลงไปผัดให้สุก
  3. ใส่มะเขือเทศที่หั่นรอไว้ลงผัดจนสุก ถ้าน้ำแห้งเติมน้ำซุปลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา
  4. ตักใส่ถ้วยโรยด้วยต้นหอม และผักชีซอย ทานพร้อมกับผักสด

รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
มะเขือเทศ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอยู่หลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี1 วิตามินบี2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และ ธาตุเหล็ก โดยมะเขือเทศขนาดปานกลางนั้นจะมีปริมาณของวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งลูก และมะเขือเทศหนึ่งผลมีปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการจำนวน 1 ใน 3 ของวิตามินเอทีร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว!! และยังมีสารจำพวก ไลโคพีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน และ กรดอะมิโน เป็นต้น และมะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เช่น ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

ผัดฟักทองใส่ไข่

0 ความคิดเห็น

 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ฟักทอง 300 กรัม
  • กระเทียมกลีบเล็ก 4 กลีบ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. ฟักทองเอาไส้,เมล็ด และปอกเปลือกออกให้หมด เสร็จแล้วก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก อย่าให้บางและหนามากเกินไป เด๋วจะแระและสุกช้า
  2. กระเทียมหั่นละเอียด ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันไฟอ่อน ทำการเจียวกระเทียม
  3. นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงผัดพอส่งกลิ่นหอม ใส่ฟักทองลงไปผัดรวมกัน เติม น้ำแล้วปิดฝากระทะอบให้ฟักทองสุกประมาณ 5-6 นาทีค่ะ
  4. เมื่อฟักทองสุกแล้ว ตอกไข่ใส่ลงไป ใส่น้ำมันหอย และซอสปรุงรส ผัดพอไข่สุกก็ใช้ได้แล้วค่ะ ปิดไฟ ตักใส่จานพร้อมทานค่ะ
 
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
ฟักทอง นอกจากอิ่มอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาอีกต่างหาก เนื้อฟักทองจะมีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และที่สำคัญเลยก็คือ "เบต้าแคโรทีน" ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมเบต้าแคโรทีน ยังช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้เป็นอย่างดี

แกงจืดเต้าหู้ไข่

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • เนื้อสัตว์สับ (ไก้, กุ้ง) 150 กรัม
  • เต้าหู้ไข่ไก่ 1 หลอด
  • ผักกาดขาว 200 กรัม
  • วุ้นเส้น 50 กรัม
  • แครอท 50 กรัม
  • ต้นหอม 2 ต้น
  • ผักชี       2 ต้น
  • เห็ดหูหนู 25 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำปลา 1 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. หมักเนื้อสับโดยใช้ซีอิ๊วขาวนิดหน่อย กระเทียมสับ และพริกไทย พักไว้
  2. ทำน้ำซุป ตั้งน้ำสะอาดให้เดือด เติมเกลือ น้ำปลาและซีอิ๊วขาว
  3. พอน้ำเดือด ให้ปั้นเนื้อสับเป็นก้อนพอคำลงไปจนหมด
  4. เติม ผักกาดขาว วุ้นเส้น แครอท เห็ดหูหนู
  5. หั่นเต้าหู้ไข่ให้เป็นท่อน แล้วเติมลงไป พอทุกอย่างสุกเป็นอันเสร็จ ใส่ ต้นหอม ผักชี ปิดเตาได้เลยค่ะ
รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
เต้าหู้ไข่ มีโปรตีนเลซิธิน (lecithin) วิตามิน A, B1 , B2 และวิตามิน D แคลเซียมและธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ   โดยไข่แดงที่เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิต จะอุดมไปด้วย โปรตีน และธาตุเหล็ก , แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน A และวิตามิน B1 รวมถึงสารโคลีนที่มีส่วนช่วยพัฒนาสมองและเสริมสร้างความจำ สารลูทีนและซีแซนทีนที่มีประโยชน์ในการบำรุงประสาทตา  นอกจากนี้ในไข่แดง ยังมีไขกรดไขมันไม่อิ่มตัว มีคุณค่าใกล้เคียงกับไขมันปลาทะเล มีกรดไขมันโอเมก้า-3  ที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองและเนื้อเยื่อตา รวมถึงกรดโอเมก้า-6 และกรดอะราคิโดนิก (ARA)  ที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทและการทำงานของระบบประสาทตา

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

ไก่ซีอิ้วหวาน

0 ความคิดเห็น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ปีกไก่บน 10 ชิ้น
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์
  • ซีอิ้วดำหวาน  2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ้วขาวเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊ป  3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า  2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย  1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันสำหรับผัดซีอิ้ว  1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันสำหรับทอดปีกไก่
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. นำปีกไก่ล้างทำความสะอาดแล้วก็ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ แล้วโรยด้วยแป้งทอดกรอบ คลุกๆพอให้แป้งติด กันหนังไก่ที่ทอดแล้วระเบิด
  2. ลงทอดในน้ำมันที่ร้อน จนเหลืองสวย ตักออกมาพักไว้ ระหว่างนั้นก็ทอดจนหมด โดยคลุกแป้ง แล้วลงทอด
  3. มาถึงการทำซีอิ้วหวานแล้ว นำกะทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำตาลปี๊ป  น้ำเปล่า  น้ำมันหอย ลงไปคนให้เข้ากัน
  4. คนให้เข้ากัน คลุกน้ำซีอิ๊วจนเกาะติดที่ผิวไก่และแห้งซึมแล้วจึงตักใส่จานเป็นอันเสร็จ

ไข่ตุ๋น ไมโครเวฟ

0 ความคิดเห็น

เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำเปล่า 2 เท่าของไข่
  • เนื้อสัตว์สับ (เนื้อไก่, กุ้งสับ)
  • ซอสปรุงรส
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. ตอกไข่ใส่ภาชนะที่ต้องการ คนไข่ให้เข้ากัน พยามอย่าให้มีฟองมาก เหยาะซอสปรุงรสตามชอบ ใส่เนื้อสัตว์ (ถ้าจะให้ออกแนวญี่ปุ่นก็ใส่ซอสโซยุ)
  2. เติมน้ำใส่ กะเอาปริมาณพอๆกะไข่ ถ้าใส่มากหน่อยจะช่วยให้เนื้อไข่ตุ๋นเนียนมากขึ้น
  3. ปิดฝาถ้วยให้สนิท นำเข้าไมโครเวฟ  ประมาณ 11 นาที สิ่งสำคัญอยู่ที่วัตต์ต้องต่ำๆ เวฟนานๆหน่อยซึ่งจะได้เนื้อเนียนๆ แต่ถ้าวัตต์สูงๆ จะเป็นรูและกระด้างค่ะ

วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

มัสมั่นไก่

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่ประมาณ 5 – 8 เม็ด
  • พริกขี้หนูแห้งประมาณ 5 เม็ด
  • รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
  • ลูกกะวานคั่ว 3 ลูก
  • อบเชยคั่ว 1 ก้าน
  • ข่าซอย 1 ช้อนชา
  • ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมเผา 2 ½ ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงเผา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  • กะปิ 2 ช้อนชา
  • เกลือ ¾ ช้อนชา
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. เบื้องต้นมาเตรียมน้ำพริกแกงมัสมั่น โดยนำพริกแห้งผ่าเอาไส้และเมล็ดออก แล้วแช่น้ำให้พริกแห้งนุ่ม จากนั้นบีบน้ำออก
  2. นำเครื่องเทศแบ่งมาคั่วเป็นอย่างๆ เพื่อให้เครื่องเทศมีกลิ่นหอม
  3. จากนั้นนำพริกแห้ง เกลือ หอมเผา กระเทียมเผา โขลกเข้าด้วยกันจนละเอียด แล้วใส่เครื่องเทศทุกอย่างทั้งหมดลงไปโขลกรวมกันให้ละเอียด
  4. ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง ตักขึ้นเตรียมไว้ค่ะ
  5. ต่อกันเลยค่ะนำเนื้อไก่ (สามารถเลือกใช้ส่วนสะโพกไก่ติดน่อง น่องไก่ หรืออกไก่) มาล้างทำความสะอาดให้สะอาด แล้วทำการหั่นแยกน่องและสะโพกออกจากกัน
  6. นำมันฝรั่งมาปลอกเปลือกแล้วนำไปล้างให้สะอาด หั่นมันฝรั่งเป็นชิ้น ควรหั่นให้ชิ้นใหญ่หน่อยค่ะ เพราะแกงมัสมั่นไก่ต้องเคี่ยวไว้นานซักหน่อย หั่นชิ้นเล็กไปอาจจะเละละลายไปกับน้ำแกงได้ค่ะ
  7. จากนั้นนำหม้อตั้งบนเตาไฟใช้ไฟอ่อน ใส่หัวกะทิลงไปเคี่ยวให้แตกมัน แล้วใส่พริกแกงมัสมั่นที่เตรียมไว้ลงไปให้เข้ากันจนหอม แล้วใส่เนื้อไก่ลงไปลงไปผัดคลุกเคล้าจนเข้าเนื้อ
  8. เติมหางกะทิลงไปเคี่ยวจนเนื้อไก่เปื่อยด้วยไฟเบา – ไฟปานกลาง
  9. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และเกลือลงไป แล้วเติมถั่วลิสง โป๊ยกั๊ก ลูกกระวาน และอบเชยตามลงไปเพื่อความหอม คนให้เข้ากัน
  10. เมื่อความร้อนในหม้อแกงเริ่มระอุเดือด นำใส่หัวหอมและมันฝรั่งลงไปใส่ลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสชาติให้มีรสหวานนำ เปรี้ยวและเค็ม ออกรสกลมกล่อมๆค่ะ แล้วเคี่ยวต่อไปด้วยไฟอ่อนๆสักครู่พอให้มันฝรั่งสุก ปิดเตาไฟ พร้อมทานค่ะ

ผัดเปรี้ยวหวานไก่ (กุ้ง)

0 ความคิดเห็น
ผัดเปรี้ยวหวานไก่
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • เนื้อไก่ 200 กรัม หรือกุ้งแกะเปลือก เหลือหางกุ้งไว้
  • สับปะรด (เปรี้ยว) 100 กรัม
  • แตงกวา 3 ลูก
  • มะเขือเทศ 2 ลูก (เคล็ดลับถ้ามะเขือเทศ/สับปะรดเปรี้ยวน้อย ให้เติมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะเป็นตัวช่วยเพิ่มรสเปรี้ยว)
  • หอมใหญ่หัวใหญ่ 1/2 หัว
  • พริกหวานยักษ์สีเขียว เหลือง แดง อย่างละ 1/4 ผล (ใส่เพิ่มสีสันให้สวยงามพร้อมได้คุณค่าทางอาหาร)
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 2/3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. ตั้งกระทะ ไฟใช้อุณหภูมิปานกลาง แล้วใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมสับลงไปเจียว ให้มีสีเหลืองอ่อนค่ะ
  2. ใส่กุ้งตามลงไปผัดให้เข้ากัน ผัดต่อจนกุ้งเปลี่ยนสี แล้วใส่ผักทุกอย่างลงไป ยกเว้นแตงกวาและต้นหอมค่ะ
  3. เร่งไฟแรงมากขึ้น แล้วผัดจนน้ำจากสับปะรดและมะเขือเทศเข้ากัน ชิมรส เติมน้ำปลา น้ำตาลทราย ถ้าเปรี้ยวน้อยไปก็เติมน้ำส้มสายชูนะคะ
  4. จากนั้นจึงใส่แตงกวา ผัดพอเข้ากัน เพราะถ้าหากผัดนานแตงกวาจะไม่กรอบค่ะ แล้วโรยต้นหอมเป็นลำดับสุดท้าย เพราะต้นหอมเป็นพืชใบอ่อนสุกง่าย
  5. โรยพริกไทยป่น คลุกให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ เสร็จแล้วคะ พร้อมทานได้ทั้งครอบครัว

รายละเอียดคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติม
พริกหวานสีเขียว พริกหวานเหลือง พริกหวานแดง มีคุณค่าทางวิตามิน A, B1, B2 และ C มีสารแคบไซซิน ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก และโรคมะเร็ง โดยที่พริกหวานสีแดงจะมีปริมาณเบต้าแคโรทีนสูงสุด (373.6 มิลลิกรัม) รองลงมาคือพริกหวานสีเหลือง (76.9 มิลลิกรัม) ส่วนพริกหวานสีเขียวไม่พบเบต้าแคโรทีน 

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

เนื้อทอดน้ำมัน

0 ความคิดเห็น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • เนื้อวัว  300 กรัม (เนื้อสันนอก)
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสภูเขาทอง 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เมล็ดพริกไทยขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 3-4 ราก
  • น้ำมัน สำหรับทอด
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. เอาเนื้อสันนอก หมักเกลือ ชีอิ้วขาว ซอสภูเขาทอง น้ำมันหอย น้ำตาล กระเทียม เมล็ดพริกไทยขาว รากผักชี
  2. ทอดใช้ไฟปลานกลาง พอให้เนื้อสุกนุ่มๆ จะรสชาติออกเค็มหวาน ตักใส่จานทานได้เลยค่ะ

แกงส้มชะอมกุ้ง

0 ความคิดเห็น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • กุ้งสด 10-15  ตัว แกะเปลือกไว้หางผ่าหลังชักเส้นดำออก 
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • ชะอม 1 มัด
  • น้ำมันสำหรับทอดชะอม
  • น้ำปลาดี 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำพริกแกงส้ม 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ ข้นๆ เรียกรสชาติ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า    2  1/2  ถ้วย
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. เด็ดชะอม แล้วล้างทำความสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ
  2. นำไข่ไก่ไปตอกและใส่ในชาม ตีไข่ด้วยส้อม แล้วนำชะอมลงไปผสมกับไข่ให้เข้ากัน
  3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟปานกลาง ใส่ไข่และชะอมลงไปทอด รอจนกระทั่งสุกเหลืองดี หรือทดสอบว่าไข่สุกด้วยวิธีเอามีดส้อมจิ้มดูความสุก ถ้าไม่สุกจิ้มลงไปน้ำไข่จะไหลออกมา ถ้าจิ้มแล้วไม่มีน้ำไข่ติดออกมาแสดงว่าไข่สุกแล้ว จึงปิดไฟและนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน
  4. เตรียมน้ำใส่หม้อ แล้วนำไปต้มให้เดือดใส่เครื่องแกงลงไปปรุงรสด้วยน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ  และน้ำปลา ชิมรสตามชอบเมื่อน้ำเดือดจัดให้ใส่กุ้งลงต้มพอสุกแล้วปิดเตาตักแกงส้มใส่ชามไข่ชะอมทอดที่เตรียมไว้ สูตรนี้ทานได้ทั้งครอบครัวค่ะ

วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557

ผัดพริกแกงไก่

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • เนื้ออกไก่ 200 กรัม
  • พริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ
  • กะทิ 150 กรัม
  • พริกชี้ฟ้า หั่นชิ้น 10 เม็ด
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 10 ใบ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลป๊๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. ตั้งกระทะ ไฟปานกลาง ใส่กระทิลงไปในกระทะ แล้วใส่พริกแกงลงไป เปิดไฟอ่อน เคี้ยวให้เดือด แล้วใส่น้ําตาลปี๊บลงไปค่ะ
  2. พอเดือดปุบๆ ใส่ไก่ลงไปคนให้ทั่ว ปล่อยเฉยๆไม่ได้นะค่ะ รอให้เดือด ใช้ไฟอ่อนใส่น้ำปลาลงไป หวานนิด เค้มหน่อย เผ็ดนำ อร่อยค่ะ
  3. พอเดือด ถ้ารู้สึกข้นไป เติมกะทิลงไปหน่อยได้นะค่ะ ใส่ใบมะกรูดลงไปคนให้เดือด แตกมันเล็กน้อย แล้วผัดให้เข้ากัน เติมพริกชี่ฟ้าที่หั่นไว้แล้ว ผัดพอเข้ากัน เท่านี้ก็ได็เมนูไก่ผัดพริกแกงพร้อมทานได้ทั้งครอบครัวค่ะ

ผัดวุ้นเส้น

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • วุ้นเส้น 130 กรัม (เลือกวุ้นเส้นที่ทำจากแป้งถั่วเขียว ตัดวุ้นเส้นให้ยาวประมาณนิ้วมือหนึ่ง เวลาผัดแล้วเส้นจะเหนียวนุ่มและกระจายไม่ติดกันเป็นก้อน)
  • เนื้ออกไก่ 100 กรัม
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • หอมใหญ่หั่นเป็นชิ้นๆ 50 กรัม
  • มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นๆ 3 ลูก
  • ผักกาดขาว 2 ใบใหญ่
  • กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมหั่น 3 ต้น
  • กะหล่ำปลีหั่น 100 กรัม
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสน้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย 1/2 ช้อนชา
  • ผักชีสำหรับแต่งหน้าอาหาร
  • น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. นำวุ้นเส้นไปแช่น้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงนำมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง พักไว้
  2. ตั้งกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำมันพืช รอจนร้อนจึงใส่กระเทียมลงไปผัดจนเหลืองหอม  
  3. ใส่ไก่และหอมใหญ่ลงไปผัดจนไก่เกือบสุก จึงใส่ไข่ไก่ลงไป ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก ทิ้งไว้สักพัก พอไข่เริ่มสุกใส่วุ้นเส้น, มะเขือเทศ, กะหล่ำปลีและต้นหอม ลงไปผัดต่อ
  4. ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย, ซีอิ้วขาว, น้ำตาลและพริกไทย ผัด 6-8 ครั้งจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จึงปิดไฟ
  5. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชี โดยพริกไทยป่น พร้อมทานค่ะ

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

น้ำพริกกะปิ น้ำพริกมะเขือพวง

0 ความคิดเห็น
 น้ำพริกมะเขือพวง
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • กุ้งแห้ง (ใช้กุ้งแห้งดีๆจะหอม)
  • กะปิอย่างดี
  • พริกขี้หนูสวน
  • น้ำตาลปี๊บ
  • มะเขือพวง
  • มะนาว (สด)
  • กระเทียม กลีบเล็กจะหอม ไม่ฝาดหรือขม
  • หอมแดง
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. กระเทียมตำพร้อมกะปิ ตำให้แหลกแล้วยกสากขึ้นมาดม กลิ่นกระเทียมต้องแรงกว่ากะปินิดนึง ถ้ากลิ่นกะปิแรงกว่า ให้เพิ่มกระเทียมลงไปตำอีกเล็กน้อย
  2. ใส่พริกลงไปโขลก จำนวนพริกตามชอบ
  3. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปโขลก ปริมาณตามชอบ ควรใส่แต่น้อยก่อน เสร็จแล้วให้ชิมรสในครกว่าพอดีกับที่ต้องการหรือยัง กรณีอยากเพิ่มน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ก็ปรุงรสให้จบในขั้นตอนนี้เลยค่ะ
  4. สุดท้าย ปีบมะนาวใส่เป็นขั้นตอนสุดท้าย คนให้เข้ากันด้วยสาก เท่านี้ก็จะได้น้ำพริกที่มีกลิ่นหอมของกะปิ ออกเปรี้ยว เค็ม หวานปลายๆ สามรส หอมชวนรับประทานแล้วค่ะ

น้ำสลัดผักสดน้ำใส

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • น้ำส้มคั้นใหม่ๆ 1/4 ถ้วย
  • หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  • มัสตาร์ด 1/4 ช้อนชา
  • น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผสมลงในขวดแก้ว ปิดฝาแล้วเขย่าให้เข้ากัน นำเข้าตู้เย็น น้ำสลัดน้ำใส
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  • นำส่วนผสมเทลงในเครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากัน หรือจะเขย่า หรือตีให้เข้ากันก็ได้ แล้วนำไปแช่เย็นเก็บไว้ก่อนนำมาใช้ เขย่าให้เข้ากันเสียก่อนค่ะ

วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2557

แกงเลียงกุ้งสด

0 ความคิดเห็น
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • หอมแดง 10 หัว
  • กระชายขูดเปลือก 7 ราก
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เม็ดพริกไทยตำละเอียด 20 เม็ด 
  • กุ้งแห้งขนาดเล็ก 15-20 ตัว
  • กุ้งสด 200-300 กรัม แกะเปลือกตัว หัว เหลือหางกุ้งไว้
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
  • ผักข้าวโพดอ่อน บวบกลมขาดไม่ได้ กับใบแมงลัก ผักสดอื่นๆ หั่น เช่น บวบ ฟักทอง เห็ดฟาง ดอกแค ใบตำลึง
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. เตรียมครก นำกะปิ เม็ดพริกไทย หอมแดง และกุ้งแห้ง โครกให้ละเอียด
  2. ต้มน้ำในหม้อต้ม ใส่เครื่องแกงเลียงที่เตรียมลงไปในหม้อต้ม
  3. เติม ข้าวโพดอ่อน บวบ เห็ด ฟักทอง ลงไปต้ม จนผักเริ่มสุก
  4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่กุ้งลงไปจนกุ้งเริ่มสุก ใส่ใบแมงลักลงไป แล้วตักใส่ถ้วยทานได้เลยค่ะ

ยำปลาดุกฟู

0 ความคิดเห็น
 
เทคนิค + เครื่องปรุง + ส่วนผสม
  • ปลาดุกย่าง 4 ตัว ตัวละประมาณ 25 - 35 บาท
  • มะม่วงดิบซอย 1 ถ้วยตวง
  • เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วยตวง
  • หอมแดงซอย 1/2 ถ้วยตวง
  • ถั่วลิสงหรือมะม่วงหิมพานต์ทอด 1/2 ถ้วยตวง
  • ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อนสั้นๆ 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำมันสำหรับทอด
  • พริกขี้หนูู่สวน 10-20 เม็ด
  • กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 1ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำทีละขั้นตอน:
  1. โขลกรากผักชี กระเทียม ก่อนค่อยใส่พริกขี้หนูบุบ พอหยาบผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรส ตามชอบจะออก เปรี้ยว หวาน เผ็ด เสร็จแล้วเก็บไว้ราดปลาดุกที่เรากำลังจะทอดค่ะ
  2. ปลาดุกที่ย่างสุกแล้ว เอามาแร่เอาแต่เนื้อหัวและหางเก็บไว้จัดจานให้สวยงาม สับหรือโขลกให้เนื้อฟู หรือจะใส่โถปั่นใส่น้ำมันเพื่อที่จะสามารถปั่นปลาได้ละเอียดมาก และทำให้ปลาดุกฟูที่ได้เนื้อจะละเอียด
  3. ใส่น้ำมันลงในกระทะพร้อมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ตั้งไฟพอน้ำมันร้อน
  4. ผสมเกล็ดขนมปังลงในปลาดุกคลุกเคล้าให้เข้ากันตักลงในกระทะทีละ 1 ทัพพี ใช้ตะหลิวเขี่ยให้กระจายพอเหลือง ตักขึ้นใส่จานเวลารับประทาน โรยด้วยมะม่วงซอย หอมแดงซอย ถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ผักขึ้นฉ่ายแล้วราดด้วยน้ำยา

Advertisement

 

Copyright 2014 All Rights Reserved สูตรอาหาร เมนูอาหารไทย by ครัวคุณแก้วตา